Skip to main content
Top 4 Commercial Vehicles in Thailand 

รถเพื่อการพาณิชย์ 4 อันดับยอดนิยมในประเทศไทย

การแนะนำ

ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดธุรกิจที่มีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา การมีระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่นที่ต้องการรถขนส่งระยะสุดท้าย (Last-mile Delivery) ที่เชื่อถือได้ หรือบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องบริหารการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือหลัก — รถเพื่อการพาณิชย์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและคุ้มค่า

บทความนี้ได้รวบรวม รถเพื่อการพาณิชย์ยอดนิยมในประเทศไทย 4 รุ่น ที่ผสมผสานทั้งสมรรถนะ ความทนทาน และความคุ้มค่า เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ

1. Tata Super Ace Mint

Tata Super Ace Mint เป็นรถบรรทุกขนาดเล็กที่ได้รับการพิสูจน์แล้วทั้งด้านคุณภาพและความทนทาน โครงสร้างแข็งแรง และมีน้ำหนักบรรทุกสูงสุดถึง 1 ตัน รถรุ่นนี้มีความอเนกประสงค์สูง เหมาะกับงานขนส่งหลากหลายประเภท

  • สมรรถนะของเครื่องยนต์:

    Tata Super Ace Mint มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 1.4 ลิตร CRDI ให้กำลังสูงสุด 70 แรงม้า ที่ 4000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 140 นิวตันเมตร ที่ 1800–2000 รอบ/นาที เครื่องยนต์ทรงพลังนี้ช่วยให้รถสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์

  • ระยะทางและความสามารถในการบรรทุก:

    Super Ace Mint มีขนาดกระบะยาว 2,630 มม. และบรรทุกได้ถึง 1 ตัน เพียงพอสำหรับการขนส่งสินค้าหลากหลายประเภทในแต่ละรอบ โดยยังคงประสิทธิภาพในการทำงานไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

  • ความสะดวกสบายของผู้ขับขี่:

    ห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้คล้ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล มาพร้อมพวงมาลัยเพาเวอร์ เกียร์คุณภาพสูง แอร์ และกระจกไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลายและสะดวกสบายแม้ต้องขับในระยะทางไกล

2. Tata Ultra T.9

Tata Ultra T.9 เป็นหนึ่งในรถบรรทุกขนาดกลาง (Light Commercial Vehicle) ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจาก Tata Motors ด้วยความแข็งแรง ทนทาน และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องในการดำเนินงาน

  • สมรรถนะของเครื่องยนต์:

    Tata Ultra T.9 ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.3 ลิตร Direct Injection Turbo-Charged Intercooled ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า ที่ 2600 รอบ/นาที และแรงบิด 450 นิวตันเมตร ที่ 1400–2200 รอบ/นาที ช่วยให้รถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกสภาพเส้นทาง

  • ความสามารถในการบรรทุก:

    Ultra T.9 บรรทุกได้สูงสุด 5.5 ตัน สามารถขนส่งสินค้าได้ปริมาณมากต่อเที่ยว เพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง และยังมีระบบกันสะเทือนที่แข็งแรง ทำให้สินค้าปลอดภัยตลอดการเดินทาง

  • ความปลอดภัย:

    ติดตั้งระบบเบรก Full-air S-cam พร้อม ABS เพื่อความแม่นยำและการหยุดรถอย่างมั่นใจ เพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งผู้ขับและสินค้า

3. Tata Ultra T.14

Tata Ultra T.14 เป็นรถบรรทุกขนาดกลางที่ได้รับคำชื่นชมจากทั้งผู้ใช้งานและผู้เชี่ยวชาญ ด้วยสมรรถนะที่ทรงพลังและช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการดำเนินธุรกิจ

  • สมรรถนะของเครื่องยนต์:

    ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 5 ลิตร NG Common Rail แบบเทอร์โบชาร์จ อินเตอร์คูล มีความจุ 5005 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 2400 รอบ/นาที สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 105 กม./ชม.

  • ระบบประกอบคุณภาพสูง:

    มาพร้อมชุดเกียร์ Tata GBS 750 6F+1R และระบบเบรก Dual-circuit Full-air S-cam ซึ่งเป็นระบบคุณภาพสูงสุดในระดับเดียวกัน ช่วยให้รถสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพการขับขี่ที่หลากหลายได้อย่างมีเสถียรภาพ

  • ความสามารถในการบรรทุกและความจุถังน้ำมัน:

    Ultra T.14 มีความสามารถในการบรรทุกสูงสุด 9,600 กก. และมีความจุถังน้ำมัน 160 ลิตร เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าปริมาณมากในระยะทางไกล

4. Tata Prima 5038.S

Tata Prima 5038.S เป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ (Heavy Commercial Vehicle) ที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย ด้วยสมรรถนะที่ทรงพลังและประสิทธิภาพที่เหนือชั้น เหมาะสำหรับงานขนส่งหนักหรือระยะทางไกล

  • สมรรถนะของเครื่องยนต์:

    ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Cummins ISLe 370 ที่ให้พลังแรงและมีประสิทธิภาพสูง พร้อมระบบควบคุมการปล่อยมลพิษที่ทันสมัย เพื่อการทำงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

  • ความสามารถในการบรรทุก:

    Prima 5038.S สามารถบรรทุกได้สูงสุดถึง 35,000 กิโลกรัม พร้อมระบบกันสะเทือนที่แข็งแรง ช่วยให้ขนส่งสินค้าหนักได้อย่างมั่นใจโดยไม่กระทบต่อสมรรถนะหรือความปลอดภัย

  • ความสะดวกสบายของผู้ขับขี่:

    มาพร้อมห้องโดยสาร Prima Cabin ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomic Design) มีฟังก์ชันครบครันและควบคุมได้สะดวก ลดความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ในระยะทางไกล

ประโยชน์ของการใช้รถเพื่อการพาณิชย์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย

  1. เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน:

    รถบรรทุกทุกคันจาก Tata Motors มีความสามารถในการบรรทุกสูง ทำให้สามารถขนสินค้าปริมาณมากต่อเที่ยว ลดจำนวนรอบการขนส่ง และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม

  2. สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้น:

    รถจาก Tata Motors ใช้อะไหล่คุณภาพสูง และมีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ ช่วยลดเวลาการหยุดใช้งาน (Downtime) และเพิ่มอายุการใช้งานของรถ ส่งผลให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่ามากขึ้น

  3. เป็นผู้นำด้านการลดมลพิษ:

    Tata Motors Thailand ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม โดยติดตั้งระบบควบคุมการปล่อยมลพิษขั้นสูงในรถทุกคัน เพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและมลพิษทุกครั้งที่สตาร์ทรถ

สรุป

หากธุรกิจของคุณในประเทศไทยพึ่งพาการขนส่งทางถนนเป็นหลัก ความสามารถของ “รถเพื่อการพาณิชย์” คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ

Tata Motors Thailand มีรถที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ ได้แก่

Tata Super Ace Mint, Tata Ultra T.9, Tata Ultra T.14, และ Tata Prima 5038.S ทุกรุ่นมอบสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่าการลงทุน

แวะเยี่ยมชมผู้แทนจำหน่ายใกล้บ้านคุณ เพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงว่ารถเหล่านี้สามารถยกระดับธุรกิจของคุณได้อย่างไร

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ควรพิจารณาปัจจัยใดบ้างเมื่อต้องการเลือกรถเพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทย?

ควรคำนึงถึงขนาดของธุรกิจ ประเภทสินค้าที่ขนส่ง พื้นที่การใช้งาน งบประมาณ และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเลือกรถที่ตอบโจทย์ได้ครบถ้วน

รถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กที่เหมาะกับการขนส่งในเขตเมืองและต่างจังหวัดคือรุ่นใด?

สำหรับ เขตเมือง รถบรรทุกขนาดเล็กที่มีรัศมีวงเลี้ยวแคบและคล่องตัวจะเหมาะสมที่สุด เพราะสามารถเคลื่อนที่ในสภาพจราจรติดขัดได้ง่าย

ในขณะที่ พื้นที่ชนบทหรือถนนขรุขระ ควรเลือกรถที่มีความสูงจากพื้นมากและยางที่แข็งแรง เพื่อให้คงสมรรถนะและความทนทานในระยะยาว

  • แท็ก
  • tatamotors
  • เกี่ยวกับผู้เขียน
    Tata Motors

    Tata Motors Group (Tata Motors) เป็นองค์กรที่มีมูลค่า 45 พันล้านดอลลาร์ เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำระดับโลก ผลงานที่หลากหลายของบริษัทประกอบด้วยรถยนต์ ยานพาหนะเพื่อการกีฬา รถบรรทุก รถโดยสาร และยานพาหนะด้านการป้องกัน

scrolltop

ทดลองขับ

ขอใบเสนอราคา

ดาวน์โหลดโบรชัวร์

Product Enquiry