Skip to main content
What Are the Different Types of Cargo Trucks? 

รถบรรทุกสินค้ามีกี่ประเภทกันบ้าง?

การแนะนำ

รถบรรทุกสินค้ามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมการผลิต การขนส่งท่าเรือ และภาคธุรกิจเชิงพาณิชย์ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย

รถประเภทนี้ช่วยให้การขนส่งสินค้าทั่วประเทศและข้ามพรมแดนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ

มีรถบรรทุกสินค้าหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้าและขนาดของการขนส่ง บทความนี้จะรวบรวมรถบรรทุกสินค้ารุ่นเด่นที่ Tata Motors Thailand นำเสนอ

ประเภทของรถบรรทุกสินค้า

ต่อไปนี้คือประเภทของรถบรรทุกสินค้าที่ Tata Motors Thailand มีให้บริการ:

1. Tata Super Ace Mint: รถบรรทุกสินค้าขนาดเล็ก

Tata Super Ace Mint มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 1.4 ลิตร CRDI ให้กำลังสูงสุด 70 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 140 นิวตันเมตร ที่ 1,800–3,000 รอบ/นาที ทำให้รถสามารถให้สมรรถนะสูงสุดได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

รถรุ่นนี้มีความสามารถในการบรรทุกสูงสุด 1 ตัน ช่วยให้คุณขนส่งสินค้าได้ในปริมาณมากต่อเที่ยว อีกทั้งยังมีความอเนกประสงค์สูง เหมาะกับการขนส่งสินค้าหลากหลายประเภท ซึ่งช่วยเพิ่มผลตอบแทนต่อการลงทุนได้อย่างคุ้มค่า

ด้วยขนาดที่กะทัดรัด Tata Super Ace Mint สามารถเคลื่อนตัวได้คล่องในสภาพการจราจรของประเทศไทย อีกทั้งยังมีความสามารถไต่ทางชัน (Gradeability) สูงถึง 38% ช่วยให้ขับขี่ได้ดีแม้บนเส้นทางลาดเอียง จึงสามารถขยายขอบเขตการดำเนินงานไปได้ในหลายพื้นที่

2. Tata Ultra T.9: รถบรรทุกสินค้าขนาดเบา

หัวใจสำคัญของ Tata Ultra T.9 คือเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.3 ลิตร ระบบคอมมอนเรล ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า ที่ 2,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,400–2,200 รอบ/นาที ทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสภาวะ

รถรุ่นนี้มีน้ำหนักรวมทั้งคัน (GVW) 8,990 กิโลกรัม และสามารถบรรทุกได้สูงสุด 5.5 ตัน น้ำหนักตัวรถที่สมดุลช่วยให้มีความมั่นคงบนท้องถนน ส่วนความสามารถในการบรรทุกสูงช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพต่อการเดินทางแต่ละครั้ง

Tata Ultra T.9 มาพร้อมชิ้นส่วนคุณภาพสูงระดับเดียวกับในรถรุ่นใหญ่ เช่น เกียร์ 6 สปีดแบบ G-550 ระบบเบรกอากาศแบบ Dual-Circuit และถังน้ำมันดีเซลขนาด 120 ลิตร ช่วยให้รถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและเดินทางได้ไกลขึ้นโดยไม่ต้องหยุดเติมน้ำมันบ่อย

3. Tata Ultra T.14: รถบรรทุกสินค้าขนาดกลาง

Tata Ultra T.14 ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 5 ลิตร แบบมีอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 2,400 รอบ/นาที และผ่านการรับรองมาตรฐานการปล่อยมลพิษตามข้อกำหนด ทำให้เป็นตัวเลือกที่ทรงพลังและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รถรุ่นนี้มีความสามารถในการบรรทุกสูงสุดถึง 6 ตัน พร้อมระบบกันสะเทือนที่แข็งแรงและมั่นคง ทำให้สามารถขนส่งสินค้าปริมาณมากได้อย่างปลอดภัยโดยไม่สูญเสียสมรรถนะ

ห้องโดยสารมีพื้นที่กว้างขวาง ติดตั้งระบบปรับอากาศ (HVAC) พร้อมฟังก์ชันการขับขี่หลักและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อเพิ่มความสบายให้ผู้ขับ ลดความเมื่อยล้า และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม

4. Tata Prima 5038.S: รถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ (Heavy Duty)

Tata Prima 5038.S มาพร้อมเครื่องยนต์ Cummins ISLe 370 อันทรงพลัง ช่วยให้รถทำงานได้อย่างเต็มสมรรถนะ เพื่อรองรับงานขนส่งขนาดใหญ่และโครงการเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รถรุ่นนี้มีน้ำหนักรวมทั้งคัน (Gross Combined Weight) 50,500 กิโลกรัม และความสามารถในการบรรทุกสูงสุด 35,000 กิโลกรัม แสดงถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งในการขนสินค้าหนักได้โดยไม่ลดทอนความปลอดภัย

ติดตั้งระบบเบรกเสริม S Cam พร้อม ABS ที่ควบคุมได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ผู้ขับสามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุระหว่างการขับขี่

ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อรถบรรทุกสินค้า

1. ความต้องการด้านการบรรทุก (Payload Requirements)

  • รถขนาดเล็กเหมาะสำหรับการบรรทุกสินค้าน้ำหนักเบา ส่วนรถขนาดกลางถึงใหญ่เหมาะกับการขนส่งสินค้าน้ำหนักมาก
  • ควรเลือกตามปริมาณสินค้าที่ต้องขนส่งในแต่ละวันและแผนการขยายธุรกิจในอนาคต

2. เส้นทางและความคล่องตัว (Route and Manoeuvrability)

  • เส้นทางในเมืองควรใช้รถที่มีรัศมีวงเลี้ยวแคบ เพื่อความสะดวกในการขับขี่
  • ส่วนการเดินทางบนทางหลวงควรเลือกรถที่มีแรงม้าสูงกว่าเพื่อรองรับความเร็วและระยะทางไกล

3. สมรรถนะและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ (Engine Performance and Efficiency)

  • เครื่องยนต์ที่ให้สมดุลระหว่าง “พลัง” และ “การปล่อยมลพิษ” ถือว่าเหมาะสมที่สุดในระยะยาว
  • โดยอุดมคติแล้ว เครื่องยนต์เหล่านี้ควรมีคุณสมบัติที่ช่วย ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง อีกด้วย

4. ระบบความปลอดภัย (Safety Features)

เลือกรถที่มีระบบเบรกคุณภาพสูง และหากมีระบบกันสะเทือนหรือโช้กอัพที่ดี จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่และยืดอายุการใช้งานของรถ

5. ระบบบริการหลังการขาย (Service and Support Network)

เลือกรถที่สามารถเข้ารับบริการได้ง่ายเพื่อลดเวลาหยุดซ่อม และควรมีเครือข่ายศูนย์บริการที่เข้าถึงได้พร้อมอะไหล่แท้จากผู้ผลิต

สรุป

รถบรรทุกสินค้ามีบทบาทสำคัญในการขนส่งสินค้าจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งอย่างเป็นระบบ ปัจจุบันมีหลายประเภทให้เลือกใช้ตามลักษณะสินค้าและขนาดการดำเนินงานของแต่ละธุรกิจ ดังนั้น การประเมินความต้องการและลักษณะงานของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

Tata Motors Thailand เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าเชื่อถือที่สุด ทั้งในด้านคุณภาพของรถบรรทุกและบริการหลังการขาย โดยมีรุ่นให้เลือกตั้งแต่ Tata Super Ace Mint ไปจนถึง Tata Prima 5038.S เพื่อรองรับทุกความต้องการด้านการขนส่งสินค้า

เยี่ยมชมผู้แทนจำหน่าย Tata ใกล้บ้านคุณเพื่อสัมผัสสมรรถนะจริงด้วยการทดลองขับได้แล้ววันนี้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: รถบรรทุกสินค้ามีประเภทหลักอะไรบ้าง และแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรในการใช้งาน?

A: รถบรรทุกสินค้าที่พบได้บ่อย ได้แก่ รถบรรทุกพื้นเรียบ รถบรรทุกตู้ปิด รถบรรทุกแทงค์ รถดั๊มพ์ และรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ เป็นต้น แต่ละแบบมีขนาดแตกต่างกันตามลักษณะสินค้าและวิธีการขนขึ้น–ขนลง เช่น รถบรรทุกพื้นเรียบเหมาะสำหรับสินค้าขนาดใหญ่หรือรูปทรงพิเศษ เพราะโครงสร้างแบบเปิดช่วยให้ขนถ่ายได้ง่ายกว่า

Q: รถบรรทุกพื้นเรียบกับรถบรรทุกตู้ปิดต่างกันอย่างไรในแง่ความจุและความยืดหยุ่น?

A: ความแตกต่างหลักอยู่ที่โครงสร้าง — รถพื้นเรียบเป็นแบบเปิด ส่วนรถตู้ปิดมีโครงหุ้มรอบด้าน ความจุขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้ ทั้งสองประเภทมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันในการบรรทุก ขนส่ง และขนถ่ายสินค้า

Q: รถบรรทุกห้องเย็นมีประโยชน์อย่างไรในการขนส่งสินค้าที่เน่าเสียง่าย?

A: หากต้องขนส่งสินค้าที่เน่าเสียง่าย ควรใช้รถบรรทุกห้องเย็น เพราะมีระบบทำความเย็นควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ ช่วยให้สินค้าคงคุณภาพและปลอดภัยแม้ต้องเดินทางไกล

Q: ธุรกิจควรพิจารณาปัจจัยใดบ้างเมื่อเลือกซื้อรถบรรทุกสินค้า?

A: ควรพิจารณาความเหมาะสมกับลักษณะงาน ความสามารถในการบรรทุกสูงสุด ขนาดถังน้ำมัน และความน่าเชื่อถือของรถ คุณยังสามารถใช้ เครื่องมือเปรียบเทียบรุ่นรถ (Comparison Tool) บนหน้าเว็บไซต์ของ Tata Motors เพื่อช่วยในการตัดสินใจได้ฟรี

Q:รถบรรทุกขนาดเล็กและขนาดกลางเหมาะกับการขนส่งในเมืองหรือไม่?

A: เหมาะมาก เช่น Tata Ultra T.9 และ Tata Ultra T.14 ที่มาพร้อมความสามารถในการบรรทุกสูง ถังน้ำมันขนาดใหญ่ และระบบควบคุมการปล่อยมลพิษขั้นสูง ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมขณะใช้งาน

  • แท็ก
  • tatamotors
  • เกี่ยวกับผู้เขียน
    Tata Motors

    Tata Motors Group (Tata Motors) เป็นองค์กรที่มีมูลค่า 45 พันล้านดอลลาร์ เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำระดับโลก ผลงานที่หลากหลายของบริษัทประกอบด้วยรถยนต์ ยานพาหนะเพื่อการกีฬา รถบรรทุก รถโดยสาร และยานพาหนะด้านการป้องกัน

scrolltop

ทดลองขับ

ขอใบเสนอราคา

ดาวน์โหลดโบรชัวร์

Product Enquiry